Nissan March รถน่าซื้อ
ทดลอง ขับ ECO CAR รุ่นแรกของไทย กว้างใหญ่เกินระดับ แรงแค่พอตัว / นิสสัน มาร์ช / ชื่อ MARCH เปิดตัวเดือน MARCH ตามชื่อ ในฐานะอีโคคาร์รุ่นแรกของไทยในโครงการนี้ (เป็นรุ่นเดียวกับ MICRA ในหลายประเทศ) ราคาเริ่มต้นที่รุ่นเกียร์ธรรมดา 3.75 แสนบาท รุ่นเกียร์อัตโนมัติเริ่มที่ 4.59 แสนบาท สูงสุด 5.37 แสนบาท นิสสันจัดทดสอบระยะสั้นในวันเปิดตัวบนพื้นที่ริมโรงงาน เน้นว่าสั้นจริงๆ รอบละครึ่งกิโลเมตร ทางตรง 100 กว่าเมตร
ดัง นั้นการอ่าน...รถ ! ตามฝีมือและความรู้ของผู้ทดลองขับแล้วต้องนำมารายงานด้วย จึงไม่ง่าย และมีโอกาสรายงานพลาด ! บอกตรงๆ ว่าต้องใช้ความรู้พื้นฐานทางเทคนิคในตัวผู้ทดสอบเองมากถึงมากที่สุด ใครอ่านผลการทดสอบใดๆ รถคันนี้กับการทดสอบวันเปิดตัว จะต้องใช้วิจารณญานอย่างเข้มงวดในการเชื่อหรือไม่เชื่อ รวมทั้งบทความนี้ด้วย เพราะได้ทดลองขับแค่ประมาณ 1 กิโลเมตร !
อีโคคาร์ คือ รถประหยัดอัน หมายถึงประหยัดราคา ประหยัดเชื้อเพลิง และประหยัดอากาศ (มลพิษ) ซึ่งภาครัฐมีการขัยบตัวตั้งแต่หลายปีก่อนอยู่หลายระลอก สุดท้ายมาลงตัวเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ตีกรอบชัดในด้านต่างๆ โดยภาครัฐอนุมัติให้มีสิทธิพิเศษทางภาษีและการเงินต่างๆ หากบริษัทรถใดเข้าร่วมโครงการ ผลิตรถตามสเปค และทำตามกฎอย่างเคร่งครัด ซึ่งจะส่งผลให้รถมีราคาไม่แพง เพราะเสียภาษีหลายด้านต่ำ โดยมีกว่า 5 บริษัทรถเข้าร่วมโครงการนี้ มีนิสสันล้ำหน้าเปิดตัวได้ก่อนใคร และอย่างน้อยอีกเกือบ 1 ปี ถึงจะมียี่ห้ออื่นอีกสักยี่ห้อทะยอยตามมา นอกนั้น่าจะเริ่มกันที่ปี 2012
ประเด็นสำคัญ คือ เงื่อนไขสเปครถ ไม่ได้จำกัดขนาดตัวถังไว้ แต่กำหนดซีซี-ความจุกระบอกสูบของเครื่องยนต์ไว้ให้ไม่เกิน 1,300 ซีซี และทดสอบขับตามรูปแบบที่กำหนด (ไม่ใช่ใช้งานจริง) ต้องทำได้เกิน 20 กม./ลิตร ปล่อยไอเสียไม่เกินกฎ และผ่านมาตรฐานการชนแล้วปลอดภัยตามสเปคยุโรปที่กำหนด ข้อ กำหนดของอีโคคาร์ มีหลักๆ คือ เครื่องยนต์เบนซินไม่เกิน 1,300 ซีซี หรือเครื่องดีเซล ไม่เกิน 1,400 ซีซี, มาตรฐานไอเสียยูโร 4 ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่า 200 กรัม/กม., อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในการทดสอบต้องทำได้ 20 กม./ลิตร มีการผลิต 1 แสนคันภายในปีที่ 5 และมาตรฐานความปลอดภัย UNECE 94 และ 95
นั่นหมายความว่า ถ้าเครื่องยนต์ซีซีไม่เกิน กินน้ำมันน้อย มีไอเสียตามกำหนด
รถจะมีขนาดตัวถังและหนักแค่ไหนก็ได้ !
จึง เป็นที่มาของความพยายามในการเบ่งตัวถังให้ใหญ่ในทุกมิติให้มากที่สุด เพราะแน่นอนว่าจะขายง่าย ใครๆ ก็ตัดสินใจซื้อง่าย ถ้าจ่ายเงินน้อยแต่ได้รถคันใหญ่กว่าระดับ หรือถ้าสามารถผลิตขยับขนาดขึ้นไปพอๆ กับรถระดับสูงกว่าที่แพงกว่าก็ยิ่งดี
รถคันพอๆ กัน แต่ราคาถูกกว่าเป็นแสนสองแสน ย่อมขายง่ายกว่า ไม่มีอะไรซับซ้อน
ระดับ ที่แท้จริงของอีโคคาร์ เป็นรถแฮทช์แบ็คคระดับต่ำกว่าฮอนด้า แจ๊ซ, โตโยต้า ยาริส, มาสด้า 2 และฟอร์ด เฟียสต้า อยู่เล็กน้อยอย่างชัดเจน แต่ไม่ได้ห่างชั้นแบบมิร่ามีเพียงขนาดตัวถังเท่านั้นที่ราชการเปิดช่องว่าง ไว้ว่า...ไม่กำหนด
แต่รถต้องมีเครื่องซีซีต่ำ, กินน้อย, ไอเสียน้อย และตัวถังชนปลอดภัย
เชื่อ ว่าหลายบริษัทรถจะเดินตามแนวทางนี้ในด้านการออกแบบ พยายามทำตัวถังให้ใหญ่ที่สุด แต่ไม่หนักเกินจนยากจะควบคุมให้เข้าเงื่อนไขการกินน้ำมันหรือหนักจนเร่งไม่ ออก เพราะยิ่งตัวถังใหญ่ยิ่งขายง่าย นับเป็นจุดเด่นทางการตลาดทางสำคัญ
รถ คันเกือบใหญ่ แต่พิกัดราคารุ่นที่จะเริ่มซื้อกันได้อยู่ที่ 4 แสนกว่าบาท ซึ่งถูกกว่ารถระดับสูงกว่าในกลุ่มแจ๊สและยาริส ไม่น้อยกว่า 1.5 แสนบาทในอุปกรณ์มาตรฐานพอๆ กัน
ก่อนหน้าการเปิดตัวหลายเดือน มีกระแสข่าวชัดเจนว่าต้นปี 2010 จะมีการเปิดตัวนิสสัน อีโคคาร์ หลายสื่อหรือประชาชนทั่วไป สับสนไปถึงนิสสัน มาร์ชรุ่นเก่าที่ขายอยู่ในขณะนั้นว่าเป็นอีโคคาร์ ทั้งที่เป็นไปไม่ได้เลย ต่อหลายคนก็เข้าใจผิดและทำให้คนอื่นเข้าใจผิดไปด้วย เอารูปเอาข้อมูลรถเกือบตกรุ่นมาคุยกันเป็นวงกว้าง
ในความเป็นจริง แล้ว ต้องรู้ก่อนเปิดตัวว่าอีโคคาร์ของนิสสันในไทย คือ โมเดลเชนจ์ของรุ่นมาร์ช ซึ่งยังไม่เปิดตัวในตลาดโลก เพราะมาร์ชรุ่นเดิมทำตลาดมากว่า 4 ปีแล้ว ถ้าศึกษาสักหน่อยก็เดาได้ไม่ยาก ไม่มีใครเอารถอายุกว่า 4 ปีมาประกอบแล้วอ้างว่าใหม่แน่ๆ
ต้นเดือน มีนาคม นิสสัน เผยโฉมรุ่นไมครา ที่เจนีวา มอเตอร์โชว์ 2010 ซึ่งเป็นโมเดลเชนจ์ของรุ่นไมครา ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็น...มาร์ชใหม่ด้วย
ชัดเจน ว่าอีโคคาร์...มาร์ชต้องเป็นตัวถังเดียวกันกับไมครา เพียงแต่มีลุ้นบ้างว่ารายละเอียดจะต่างกันแค่ไหน กระจัง กันชน จะแปลกออกไปไหม ?
12 มีนาคม 2010 นิสสัน เปิดตัวนิวมาร์ชครั้งแรกในไทยและนับเป็นครั้งแรกในโลกของ...มาร์ช เพราะที่เจนีวาฯ เป็นการเผมโฉมด้วยชื่อไมครา ซึ่งเป็นรถต่างชื่อรุ่นกัน ที่สำคัญ คือ การส่งมอบรถ จะเกิดที่ไทยประเทศแรก ส่วนในยุโรปไมคราจะลงถนนจริงช่วงครึ่งปีหลัง
เมื่อดูมิติตามสเปคพบ ว่าขนาดตัวถังโดยรวม...ไม่เล็กแบบมิร่า ห่างชั้นจนไม่ต้องนึกถึง เบ่งจนตัวโตพอๆ กับยาริสหรือมาสด้า 2 (ผมใช้คำว่าพอๆ) ถ้าดูตามสเปคตัวเลขหรือวัดกันจริงๆ หลายมิติมาร์ชเล็กกว่าจริง แต่ไม่กี่เซนติเมตร และเชื่อไหมว่าบางมิติมาร์ชใหญ่กว่ารถรุ่นระดับสูงกว่า...บางรุ่น
ผม ถึงใช้คำว่า ขนาดตัวถัง ภายในอกและภายใน...พอๆ กับรถบางรุ่นในกลุ่มแจ๊ซและยาริส แพ้ชนะกันบ้าง โดยไม่ต้องเถียงกันว่า...โน่นใหญ่กว่านี่เล็กกว่า
มาร์ช จึงกลายเป็นรถคันโต ที่ตีตั๋วเด็กด้านอัตราภาษีและสิทธิพิเศษตามกรอบอีโคคาร์ คันจึงโตและใส่อุปกรณ์เข้าไปได้มากมาย แต่สามารถควบคุมราคาได้
4 คำถามสำคัญ
- ราคาเท่าไร ?
- ใหญ่ไหม ?
- ดี อืดหรือเปล่า ?
- วิ่งทางไกลไหวไหม ?
ราคา 3.75 – 5.37 แสนบาท
อุปกรณ์ที่แตกต่าง สร้างราคาให้แตกต่าง เทียบให้ถูกรุ่น อย่ารีบบ่นแพง
ราคาเป็นประเด็นสำคัญที่คนส่วนใหญ่ลุ้นกัน เพราะรูปหรือสเปครถ มีกระเซ็นกระสายออกมาล่วงหน้าหลายเดือนแล้ว
หลายคนเดาลอยๆ ว่า ต้องแค่ 3 แสนกว่าบาท
ผม ก็มองว่ามีส่วนจริง แต่ 3 ปลายๆ นะ แต่ที่สำคัญ นั่นเป็นรุ่นเกียร์ธรรมดาแน่ๆ ส่วนเกียร์อัตโนมัติ ยังไงก็ต้องเริ่มต้นที่เลข 4 แสนนำหน้าแน่ๆ
การประกาศราคาออกมา ผมเน้นว่าสื่อและใครๆ อย่ามองที่ราคารุ่นเริ่มต้นครับ
เพราะ คนไทยไม่ชอบซื้อรถสเปคต่ำออพชันน้อย แต่ที่สำคัญกว่านั้น รถเก๋งต้องเป็นเกียร์ออโต้เท่านั้น เกียร์ธรรมดามีคนซื้อน้อยมาก 3.75 แสนบาท นั่นเกียร์ธรรมดาครับ
ดังนั้นถ้าจะดูถึงราคารถเก๋งรุ่นใดๆ น่าจะต้องบอกว่าเริ่มต้นที่กี่บาทในรุ่นต่ำสุดของเกียร์อัตโนมัติ อย่างนิสสัน มาร์ช รุ่นเริ่มต้น 3.75 แสนบาท แต่เป็นเกียร์ธรรมดา ส่วนรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ต่ำสุดเริ่มที่ 4.59 แสนบาท รุ่นท๊อป 5.37 แสนบาท
หาก เทียบกับรถรุ่นใหญ่กว่าอย่างแจ๊ส-ยาริส ราคาเริ่มต้นรุ่นเกียร์ออโต้ 5 แสนกลางๆ จบที่ 7 แสนต้นๆ นิสสันมาร์ชเริ่มที่ 4 แสนกลาง จบที่ 5 แสนเกือบกลาง ก็เท่ากับมีส่วนต่าง 1 แสนกว่าบาทในรุ่นต่อรุ่น
กุญแจ สำคัญอยู่ที่ จะทำให้ผู้ซื้อรู้สึกได้หรือไม่ว่า...จะจ่ายแพงกว่า ( 1 แสนกว่าบาท) ไปทำไม หันมาซื้อมาร์ชดีกว่า รถคันโต..พอๆ กัน ยอดขายมาร์ชก็ทะยานไปฉลุย
ถ้าผู้ซื้อรายใด รู้สึกว่าเพิ่มขึ้นอีกแสนกว่าบาทดีกว่า ผ่อนต่างกันเดือนไม่กี่พันบาท มาร์ชก็เหนื่อย !
ราย ละเอียดของอุปกรณ์ ที่หลายคนเรียกว่าออพชัน ทั้งที่น่าจะเรียก Standard Equipment มากกว่า เพราะไม่เคยมีใครได้เลือกเลย ผมว่านิสสันให้มาแบบไม่กั๊ก แอร์แบ็ก-ถุงลมนิรภัยมีครบทุกรุ่น และแต่ละรุ่นย่อยมีความแตกต่างกันชัดเจน พิจารณากันเองว่ารุ่นใดมีอะไรและอยากได้ไหม เพราะยุ่บยั่บไปหมด
ผมอยาก จะบอกว่า อย่าเพิ่งร้องไอ้หยากับราคา และถ้าจะนำไปเทียบกับรถรุ่นใหญ่กว่า ก็เทียบให้ถูกรุ่นย่อย และดูอุปกรณ์ย่อยๆ ให้พอเหมาะพอสมกันด้วย ไม่ใช่เอารุ่นท๊อปของมาร์ช ไปเทียบกับรุ่นต่ำสุดของยาริสหรือรุ่นอื่นๆ
ขนาด ตัวถังคันจริงที่ไม่ใช่รูป ทั้งด้วยสายตาและนั่งจริงทั้งหน้า-หลัง ยอมรับครับว่า ใหญ่พอๆ กับรถระดับสูงกว่าบางรุ่นอย่างมาสด้า 2 หรือยาริส แต่ยังเล็กกว่าแจ๊สและเฟียสต้าไม่น้อย ผมใช้คำว่าพอๆ กัน นั่นหมายความว่า ไมได้เท่ากันและไม่ได้...ใหญ่กว่าแบบที่ร่ำลือกัน
มาร์ช ทั้งภายนอกและภายในใหญ่...พอๆ กับรถกลุ่มสูงกว่าในบางรุ่น และมิติที่เล็กก็ไม่ได้เล็กกว่ามาก
เอา เป็นว่าสูสีกัน แพ้ไม่มากจนรู้สึกได้ บางมิติภายนอกมาร์ชใหญ่กว่าด้วยซ้ำ แต่ภายในนั้นผมใช้คำว่า พอๆ กัน ใหญ่-เล็กกว่านั้นบ้าง แต่ถือว่าพอๆ กัน ทั้งช่วงขา เบาะ และที่สำคัญช่วงศีรษะนั้นโล่งเหลือเฟือสูง 180 ซม. นั่งไม่อึดอัด นั่งหลัง 3 คนไปได้
นับเป็นจุดเด่นที่สำคัญของมาร์ช คือมีขนาดตัวถังและห้องโดยสาร..พอๆ กับรถคันละ 5.5-7 แสนบาทในระดับสูงกว่า ไม่ต้องปวดหัวไล่ดูตัวเลขเป็นมิลลิเมตรแล้วมาเถียงกันเลย เพราะผมดูมาก่อนและที่สำคัญ คือ ผมวัดภายในห้องโดยสารด้วยตลับเมตรของรถที่จะนำมาเทียบกัน
ดังนั้นใครที่ จะคุยว่าภายในมาร์ชใหญ่กว่ารุ่นนั้นรุ่นนี้โดยรวม ไม่จริงครับ แค่ใหญ่พอๆ กัน เซ็นต์ต่อเซ็นต์...หลายมิติโดยเฉพาะด้านสูงเหนือศีรษะหรือช่วงขาอาจชนะบ้าง ยังแพ้รถรุ่นใหญ่กว่าในหลายมิติ เพียงแต่เล็กกว่าไม่กี่เซ็นต์ จนความรู้สึกแยกไม่ได้
ผมเน้นคำว่า...พอๆ หรือใกล้เคียง ไม่ใช่ใหญ่กว่าหรือเล็กกว่าจนรู้สึกได้ ที่สัคญ คือ ด้านท้ายมีความลึกในการบรรทุกสัมภาระถึง 60 เซนติเมตร กว้าง (ในส่วนซุ้มล้อ) 100 เซนติเมตร (วัดด้วยตลับเมตร)
ขนาด ตัวถังและห้องโดยสารนับเป็นจุดเด่นสำคัญ เพราะเหมือนจ่าย 4 แสน แต่ได้ขนาดรถพอๆ กับ 6-7 แสนบาท จ่าย 4 บาทได้ของขนาดพอๆ กับ 6 - 7 บาท คุยได้เต็มที่ครับ
อืดไหม ?
ไม่แรงแน่ แต่อืดไหม...แล้วแต่ความคาดหวัง
ตัด คำว่า...แรง ! ออกไปได้เลย เพราะ1. ไม่ใช่รถสปอร์ต ไม่ใช่วัตถุประสงค์ของรถประหยัดเลย 2. สเปคที่กำหนด ตีกรอบไว้แล้ว ต้องกินน้ำมันน้อยระดับ 20 กม./ลิตร ในการทดสอบและมีไอเสียต่ำ
ถ้าทำเครื่องแรง กินจุและไอเสียออกมาเพียบแน่ๆ
นิ สสัน เลือกพัฒนาและใช้เครื่องยนต์รหัส HR12DE แบบ 3 สูบเรียงวางขวาง ทวินแคม 12 วาล์วพร้อมระบบวาล์วแปรผัน ความจุ 1,198 หรือเหมารวมเป็น 1,200 ซีซีหรือ 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 79 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 10.8 นิวตัน-เมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที
ขับเคลื่อนล้อหน้า เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะหรืออัตโนมัติ-ซีวีที อัตราทดแปรผัน
ระบบช่วงล่างหน้า ปีกนกล่างอิสระ-แม็คเฟอร์สันสตรัท หลังคานบิดทอร์ชันบีม ระบบเบรกหน้าดิสก์-หลังดรัม น้ำหนัก รถรุ่นเกียร์อัตโนมัติประมาณ 950 กิโลกรัม รถเบาดีแต่เมื่อเทียบสัดส่วนแรงม้าแล้วเป็นรองรถรุ่นใหญ่กว่าที่หนักตันต้นๆ แต่พกมาร้อยม้านิดๆ
ตัวเลข 79 แรงม้า หลายคนย่อมสงสัยว่า...น่าจะอืดไหม ?
ผม เดาล่วงหน้าว่า ถ้าเป็นเกียร์อัตโนมัติแบบมีจังหวะ อัตราทดเป็นขั้นบันได น่าจะอืดมากหน่อย แต่เมื่อนิสสันเลือกใช้เกียร์ซีวีที-อัตราทดแปรผัน ผมว่าน่าจะ...พอดี !
เพราะความโดดเด่นของเกียร์ประเภทนี้ คือการเรียกแรงบิด-แรงม้าได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องมีสเต็ปของอัตราทดเกียร์ผมไม่เลือก รุ่นเกียร์ธรรมดาและไม่ทราบด้วยว่ามีเตรียมไว้ไหม เพราะต้องเลือก ขับคนัเดียว มีคิวต่อเพียบ คนยุคนี้ซื้อรถแต่เกียร์อัตโนมัติทั้งนั้น
เกียร์ ซีวีที ช่วยสร้างอัตราเร่งได้ชัดเจนครับ นั่ง 3 คนน้ำหนักรวม 250 กิโลกรัม ไปได้ครับ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ไม่มีสิทธิ์ทำ เพราะทางตรงสั้นเกินไป แต่เดาได้ว่าน่าจะทำได้แถวๆ 15 วินาทีบวกลบ น่าจะต่ำกว่า 15 ด้วยซ้ำ
ผมว่า...ไปได้ ไม่แรง แต่ไม่อืด อยากเร่งก็กดคันเร่งให้มิดไว้ เกียร์ซีวีทีจะทำหน้าที่แปรผันอัตราทดเรียกแรงบิด-แรงม้าออกมาเอง
คิด ง่ายๆ ครับ แจ๊สรุ่นเก่าเครื่องไอดีเอสไอ 88 แรงม้า วิ่งกันเต็มถนนในวันนี้หลายหมื่นคัน มีใครบ่นเรื่องอัตราเร่งไหม รถอายุ 10 ปีคลาสเครื่อง 1.6 หนักตันต้นๆ พกมาแถวๆ 100 ม้า มีใครบ่นไหม
มาร์ช นี่ 950 กก. พกมาแถวๆ 80 แรงม้า ผมว่าพอดีๆ ไม่แรง ไม่อืด ถ้าคนเข้าใจประเภทของรถ และไม่ใช่ว่าจะมองว่าเป็นอีโคคาร์แล้วต้องขับย่องๆ ผมว่ามาร์ช วิ่งดีและมีอัตราเร่งสมตัวสมกับประเภทของรถ
ส่วนในมุมมอง ของคนอื่นหรือใคร ผมว่าอยู่ที่ความคาดหวังและการอ่านประเทภของรถ ผมว่าไม่ใช่ขับมาร์ชแล้วต้องย่องๆ เพราะก็ขับได้เหมือนปกติ ขับตามก็ได้ แซงก็ได้ ไม่แรง แต่พอดี และแน่นอนว่าต้องอืดสำหรับคนเท้าหนัก ไม่เข้าใจประเภทรถ หรือคาดหวังสูง
ระบบช่วงล่าง นิ่มดีครับ แต่จากการขับช่วงสั้นๆ ซึบซับได้ว่าน่าจะย้วยบ้างเมื่อขับเร็วแน่ๆ แต่ก็เป็นไปตามระดับของรถ ไม่ได้น่ากลัวอะไร
ส่วนความค้างคาใจเรื่อง การเดินทางไกล ก็มาร์ชไม่ได้เล็กขนาดแจ๊ส ใหญ่พอๆ กับยาริส เครื่อง 1,200 ซีซีก็จริง แต่ก็หนักไม่ถึงตัน และพ่วงมาด้วยเกียร์ซีวีที จะไปเชียงใหม่-เชียงรายก็เชิญ ขอให้ขับด้วยความเข้าใจสมรรถนะของรถก็แล้วกัน ผมก็เห็นแจ๊สรุ่นเก่าเครื่องไอดีเอสไอ 80 กว่าม้า วิ่งทางไกลทางไกลกันเป็นปกติ แล้วจะสงสัยอะไรกับอีกกับ..มาร์ช
แหมจะเอาทั้ง...ถูก ประหยัดน้ำมัน แรงเกาะ วิ่ง 180 เชียวเหรอ !!!
ระบบกดสตาร์ทผมว่าเท่ดี และนับเป็นครั้งแรกของรถระดับราคาไม่กี่แสนบาทที่มีมาให้ในรุ่นสูงๆ
ส่วนระบบไอเดิลสต็อป จอดติดไฟแดงแล้วเครื่องดับ-สตาร์ทใหม่เอง หากทราบจากสื่ออื่น อย่าเพิ่งตื่นเต้น เพราะไม่ได้ใช้ในไทยแน่ๆ
ไม่ ต้องอ่านยืดยาว มีเฉพาะในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ที่สำคัญระบบจะทำงานเมื่อกดปิดปุ่ม A/C อันหมายถึงปิดคอมเพรเซอร์แอร์ เปิดแต่พัดลม ซึ่งในเมืองร้อนอย่างไทย ไม่มีใครเปิดแต่พัดลมขับรถแน่ และระบบนี้ก็ไม่ได้ทำงานเมื่อคอมฯ แอร์ตัดเอง แต่จะทำเมื่อกดปุ่มปิดคอมฯ เท่านั้น ดังนั้นระบบไอเดิลสตอปในรถรุ่นนี้ ไม่ได้มีโอกาสทำงานจริงครับ ใครจะเปิดแต่พัดลมวิ่ง...ร้อนเหงื่อตก !
New Nissan March 2010 กว้างเกินตัว แรงพอตัว ทางใกล้-ทางไกลไปได้
ส่วน ราคา...จะแพงหรือถูกสำหรับใคร แนะนำให้ดูอุปกรณ์ในแต่ละรุ่นย่อยอย่างละเอียดว่ามีอะไรบ้าง หากจะเทียบกับรถรุ่นใหญ่กว่า เลือกรุ่นย่อยให้ถูกคู่ชกกันด้วย
ขอขอบคุณนิตยสาร driver สำหรับข้อมูลครับ
รถยนต์นิสสัน มาร์ช จะเปิดตัวและนำออกจำหน่ายประกอบด้วย 4 รุ่นมาตรฐาน และ 2 รุ่นออปชั่น โดยมีสีให้เลือกทั้งหมด 6 สี
1.2S K23 Brilliant Silver สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์
G42 Black Star สีดำ แบล็ก สตาร์
KAS Crystal Lilac สีม่วง คริสตัล ไลแลค
1.2VL K23 สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์ Brilliant Silver
G42 สีดำ แบล็ก สตาร์ Black Star
KAS สีม่วง คริสตัล ไลแลค Crystal Lilac
JAD สีเขียวสปริง กรีน Spring green
A55 สีส้ม ซันไลท์ ออเร้นท์ Sunlight orange
QX1 สีขาว ไวท์ เพิร์ล White pearl
ราคาล่าสุด NISSAN MARCH
MSRP (Include A/C with VAT)
1.2 S MT 375,000 บาท
1.2 E MT 425,000 บาท
1.2 E CVT 459,000 บาท
1.2 EL CVT 489,000 บาท
1.2 V CVT 507,000 บาท
1.2 VL CVT 537,000 บาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น